หม้อต้ม (Regulator,Reducer)

อุปกรณ์ลดแรงดัน(Regulator,Reducer) หรือที่บ้านเราเรียกว่าหม้อต้ม ทำหน้าที่ลดแรงดันของแก๊ส ซึ่งปกติแล้วเวลาแก๊สอยู่ในถังจะมีสถานะเป็นของเหลวภายใต้แรงดันในถัง8-10barเมื่อแก๊สเหลวผ่านหม้อต้มจะเปลี่ยนสถานะจากของเหลวเป็นไอที่แรงดัน1-2Barในระบบหัวฉีด เพื่อให้พร้อมที่จะจ่ายเข้าเครื่องยนต์

หม้อต้ม LPG ก็จะมีอยู่ 2 ระบบ

1. หม้อต้มระบบดูด หม้อต้มระบบนี้จะไม่มีแรงดันให้แก๊สออกครับ จะต้องอาศัยแรงดูดจากเครื่องยนต์เท่านั้นถึงจะมีแก๊สออกไป

2. หม้อต้มสำหรับระบบแก๊สหัวฉีด หม้อต้มแบบนี้จะมีแรงดันประมาณ1- 2 บาร์ได้เพื่อส่งแก๊สไปที่หัวฉีด

ข้อแนะนำในการเลือกหม้อต้ม

หม้อต้มที่ใช้ต้องเหมาะสมกับขนาดของเครื่องยนต์ การเลือกใช้หม้อต้มที่มีอัตราการจ่ายแก๊สไม่เหมาะสมกับขนาดของเครื่องยนต์ เป็นสาเหตุให้เครื่องยนต์ที่ติดตั้งแก๊สนั้นเสื่อม และสึกหรอเร็วกว่าปกติเนื่องจากขณะที่ เครื่องยนต์ ทำงานหนัก เช่น ช่วงเร่งแซงหรือใช้ความเร็วสูง หม้อต้มนั้นไม่สามารถจ่ายแก๊สได้เพียงพอแก่ความ ต้องการของเครื่องยนต์จึงทำให้ส่วนผสมเชื้อเพลิงกับอากาศบาง เป็นสาเหตุให้เกิดความร้อนสะสมที่หัวลุกสูบและ ถ้าขับใช้งาน ในระยะไกล วาล์วและบ่าวาล์วจะเกิดการสึกหรอเร็วกว่าปกติ หรือรถบางรุ่นวาล์วอาจจะละลาย ดังนั้นท่านจึงต้องเลือก ขนาดของหม้อต้มให้เหมาะสมกับขนาดของเครื่องยนต์

ปกติแล้วหม้อต้มแก๊สจะมีรายละเอียดบอกไว้ว่ารองรับเครื่องได้กี่แรงม้าไม่ใช่ว่าใส่แล้วจะมีแรงม้าตาที่มหม้อต้มระบุเหมือนที่หลายคนเข้าใจ

เช่นเครื่องยนต์มีแรงม้า 140 แรงม้า ถ้าติดหม้อต้ม 200 แรงม้า เครื่องก็มี 140 แรงม้าเท่าเดิมครับ เพราะเครื่องยนต์นำไปใช้ได้แค่นั้น
ซึ่งหม้อต้มที่แรงม้าสูงส่วนมากก็มักจะมีราคาที่สูงขึ้นด้วย

แต่ถ้าหากเครื่องยนต์ 200 แรงม้า ติดหม้อต้มที่มีกำลังจ่ายแค่ 140 แรงม้า อย่างนี้มีปัญหาครับเพราะแก๊สไม่พอกับแรงม้า 200 ตัวของเครื่องยนต์
เวลาใช้แก๊สจะเร่งไม่ค่อยออก และยังส่งผลให้จ่ายเชื้อเพลิงแก๊สไม่พอต่อการใช้งาน อัตราส่วนผสมบางซึ่งมีผลเสียทำให้เครื่องยนต์สึกหรอเร็วกว่าที่ควรจะเป็น